แพ็คเกจ จี-เฮิร์บ แคปซูล วัน โฉมใหม่ [สูตรเดิม]

แจ้งลูกค้าทุกท่านแพ็คเกจ จี-เฮิร์บ แคปซูล วัน ได้เปลี่ยนแพคเกจใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้น สูตรเดิมค่ะ

แคปซูล จี-เฮิร์บ แคปซูล วัน สมุนไพรบำรุงน้ำเหลือง ได้เพิ่มโลโก้จีเฮิร์บลงบนแคปซูลใหม่ สูตรเดิมค่ะ

แคปซูล จี-เฮิร์บ วัน แรกเริ่มเดิมเป็นยาสมุนไพรยาหม้อที่คุณหมอสมหมายค้นพบขึ้นมา คุณหมอสมหมายใช้ดูแลผู้ป่วยในคลีนิคมามากกว่า 50 ปี ผู้ป่วยทั่วประเทศต้องมาต่อคิวที่จังหวัดสิงห์บุรีเพื่อขอรับยาหม้อ ไม่สามารถจดทะเบียนยาได้จึงไม่สามารถจ่ายนอกคลีนิคได้

คุณหมอสมหมายจึงคิดค้นริเริ่มสกัดสมุนไพรหม้อมาเป็นแคปซูล เพื่อจดทะเบียนยาให้ถูกต้อง ผู้ป่วยที่ไม่สะดวกเดินทางไปรับยา จึงสามารถซื้อได้ตามศูนย์มาตรฐานของจีเฮิร์บผู้ป่วยต้องไปตรวจก่อน หรือรอฟังผลตรวจก่อนไหม จึงทานยา จี-เฮิร์บได้

 

ผู้ป่วยสามารถทานสมุนไพร จีเฮิร์บวัน ได้ทันที โดยไม่จำเป็นตรวจกอนหรือรอฟังผลตรวจกอน คุณหมอสมหมาย ได้กล่าวไว้ว่า ใครก็ตามที่เป็นมะเร็งหรือมีแนวโน้วที่จะเป็น ให้มายุ่งกับยาของท่านกอนแล้วการดูแลจะง่ายขึ้นมาก ในช่วงที่เรารอการตรวจหรือรอฟังผลตรวจ บางตรั้งอาจจะใช้ระยะเวลานาน บางรายนานเป็นเดือน การทานยาจีเฮิร์บวัน จะช่วยยับยั้งและบำรุงร่างกายผู้ป่วยให้สามารถสู้กับโรคและทนต่อการรับคีโมได้ ดีตามแผนที่แพทย์ปัจจุบันวางไว้

 

จีเฮิร์บใช้กับผู้ป่วยอะไร สามารถใช้ได้ดีกับเหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลักษณะก้อนเนื้อ เช่น เต้านม ต่อมน้ำเหลือง ปอด ผิวหนัง ภูมิแพ้ น้ำเหลืองไม่ดี แผลหายยาก ส่วนอวัยวะที่ ไม่ได้ มะเร็งตับและตับอ่อน ระยะที่ ท้องโต ตัวเหลือง ตาเหลือง รังไข่และเม็ดเลือด แต่ตัวยาก็จะไปช่วยให้ร่างกายผู้ป่วยดีขึ้น แข็งแรงขึ้น และมีภูมิต้านทานที่ดี สามารถทานเพื่อบำรุงร่างกายได้

G-HERB-แพ็กเกจใหม่

ผู้ป่วยระยะไหน ถึงสามารถทานได้ ?

สามารถทานได้ทุกระยะ ข้อมูลของคลีนิค ผู้ป่วยมะเร็งส่วนมากจะเป็นระยะ 3 – 4 แล้วจึงมาที่คลีนิค เนื่องจากมะเร็งระยะ 1-2 มักไม่ค่อยมีอาการ และต้องอาศัยการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งระยะไหนก็สามารถทานได้ เพื่อผลการดูแลที่ดีกว่า และที่สำคัญกว่ายาคือ โภชนาการ กำลังใจของผู้ป่วยและกำลังใจจากญาติ การดูแลให้ถูกต้องกับโรค

จีเฮิร์บวัน สามารถทานควบคู่กับยาโรงพยาบาลและอาหารเสริมอื่นๆได้ไหม ?

สามารถทานควบคู่กับแผนปัจจุบันได้ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


จีเฮิร์บวัน ทานนานแค่ไหนรู้ผล ?

ควรรับประทานต่อเนื่องอย่างน้อย 3 – 4 เดือน แล้วลองไปตรวจเช๊คความเปลี่ยนแปลงที่โรงพยาบาล โดยจะทราบได้ว่าดีขึ้น โดยดูจาก ขนาดก้อนเนื้อที่หยุบลง อาการโดยรวมดีขึ้น รวมถึงค่าเซลล์มะเร็งในกระแสเลือดที่ลดลง (ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลง แล้วแต่บุคคล) สำหรับผู้ป่วยสามารถทานได้ตลอด โดยไม่สะสมในร่างกาย

 

หมายเหตุ : ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลง แล้วแต่บุคคล